Influencer Marketing นับเป็นการตลาดรูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและเป็นวิธีที่ง่ายในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณโดยเฉพาะบนสื่อ Social Media แต่อย่างไรก็ตามต้นทุนค่าจ้างอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป โดยบทความนี้เราจะไปพูดถึงปัจจัย 6 ข้อสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถตั้งเรทราคารีวิวของตัวเองได้ง่ายและเห็นภาพมากขึ้น จะมีประกอบอะไรบ้างไปเริ่มกันเลย...
แพลตฟอร์ม Social Media
แต่ละแพลตฟอร์มเรทราคาจะแตกต่างกันออกไป เนื่องจากวิธีการทำคอนเทนต์นั่นเองครับ ในแต่ละคอนเทนต์นั้นต้องใช้เวลา ต้องใช้งบประมาณและใช้พลังงานแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้นักรีวิวสร้างคอนเทนต์ที่มากน้อยเพียงใดครับ ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม Twitter โดยส่วนมากจะโพสต์แค่รูปภาพกับแคปชั่นสั้นๆ ซึ่งสามารถทำได้รวดเร็วกว่าการโพสต์คลิปวิดีโอบน Youtube ที่ต้องมีการพูด การตัดต่อ ที่มีขั้นตอนที่มากกว่า
จำนวนผู้ติดตาม
เรทราคาจะสูงขึ้นตามผู้ติดตามที่อินฟลูเอนเซอร์มี เพราะผู้ติดตามเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงกับค่า Reach (การมองเห็น) หากมีผู้ติดตามที่เยอะ โอกาสที่คนจะมองเห็นโพสต์ก็เยอะขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเราสามารถแบ่งกลุ่มนักรีวิวตามจำนวนผู้ติดตามได้ดังนี้
Nano-influencers: 1,000–10,000 followers
Micro-influencers: 10,000–50,000 followers
Mid-tier influencers: 50,000–500,000 followers
Macro-influencers: 500,000–1,000,000 followers
Mega-influencers: 1,000,000+ followers
ค่าการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม
หากมียอด Reach ยอดผู้ติดตามเยอะก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องที่ดีกว่านั่นก็คือค่า "Engagement
(การมีส่วนร่วม)" หากการมีส่วนร่วมของผู้ติดตามมาก เรทราคาก็จะขึ้นสูงตามเช่นกัน เพราะสามารถสร้างโอกาสเพิ่มยอดขายได้จากตรงนี้ แต่หากมีค่า Engagement ที่ต่ำก็ส่งผลให้เรทราคาของลดลงเนื่องจากหวังผลลัพธ์ได้น้อยกว่านั่นเองครับ
ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
หากเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีแนวทางคอนเทนต์เฉพาะด้านใดด้านนึงโดดเด่นเป็นพิเศษ นอกจากจะทำให้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นแล้ว เรทราคาก็จะสูงขึ้นตามด้วยเช่นกันครับ ยกตัวอย่างเช่น เป็นนักรีวิวสายอาหาร ที่มีแต่คอนเทนต์รีวิวร้านอาหารอร่อยๆ แจกสูตรทำอาหารโดยรวมแล้วมากกว่า 70% ย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่าคนที่ทำ
คอนเทนต์ไม่เฉพาะเจาะจงและหลากหลายกว่านั่นเองครับ
สิทธิ์การใช้งาน
หากต้องการที่จะนำคอนเทนต์ของอินฟลูเอนเซอร์มาใช้ใหม่ ใช้หลายครั้ง อินฟลูเอนเซอร์บางรายจะทำการเรียกเก็บเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตามไทโกะแนะนำให้ทำข้อตกลงและพูดคุยทำสัญญากันให้เรียบร้อยเพื่อที่การทำงานจะได้
ราบรื่นและไม่มีปัญหาครับ
ข้อตกลงเพิ่มเติม
การทำ Influencer Marketing ถือเป็นการตลาดอย่างนึงและทุกการตลาดนั้นก็มีคู่แข่งนั่นเอง หากคุณต้องการให้อินฟลูเอนเซอร์โปรโมทแค่สินค้าหรือบริการของเราและไม่รับงานโปรโมทจากแบรนด์คู่แข่งในช่วงเวลาหนึ่ง อาจทำให้ค่าจ้างของอินฟลูเอนเซอร์นั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์จะเสียโอกาสบางส่วนในการรับงานนั่นเองครับ อย่างไรก็ตามควรพูดคุยและตกลงกันให้เรียบร้อยนะครับ
ทั้งหมดนี้ก็คือ 6 ข้อที่จะช่วยให้การตั้งเรทราคาของอินฟลูเอนเซอร์นั้นเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สมเหตุสมผลมากขึ้นนั่นเองครับ
ต้องการหานักรีวิว หางานรีวิว > www.taiko.ai